pci-dss 3.2はなにですか
สภามาตรฐานด้านความมั่นคงปลอดภัยของการใช้บัตรชำระเงิน (Payment Card Industry Security Standard Council) ออกมาตรฐาน PCI-DSS ซึ่งเป็นมาตรฐานด้านความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลสำหรับองค์กรที่ต้องจัดการกับข้อมูลบัตรเครดิตของลูกค้า เวอร์ชันใหม่ล่าสุด คือ 3.2 ซึ่งข้อกำหนดที่เปลี่ยนไปจากเดิม มีดังนี้
การพิสูจน์ตัวตนแบบหลายปัจจัยจะถูกนำมาใช้ในการเข้าถึงระบบข้อมูลของผู้ถือบัตรไม่ว่ากรณีใดก็ตาม ซึ่งก่อนหน้านี้จำเป็นต้องใช้วิธีการพิสูจน์ตัวตนแบบดังกล่าวเฉพาะกรณีที่เข้าถึงจากระยะไกล (Remote Access) ผ่านทางอุปกรณ์หรือผู้ใช้ที่ไม่น่าเชื่อถือเท่านั้น
เพื่อผ่านมาตรฐาน PCI-DSS 3.2 การพิสูจน์ตัวตนแบบหลายปัจจัยนี้จำเป็นต้องพร้อมใช้งานก่อนวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2018
Designated Entities Supplemental Validation (DESV)
DESV เป็นกลุ่มของขั้นตอนที่บอกผู้ที่เกี่ยวข้องว่าจะผ่านมาตรฐาน PCI-DSS ได้อย่างไร ซึ่งกลุ่มขั้นตอนนี้จะถูกบรรจุเข้ามาเป็นมาตรฐานในเวอร์ชัน 3.2 โดยผู้ที่เกี่ยวข้องอาจถูกธนาคารหรือผู้ให้บริการบัตรร้องขอให้แสดงสิ่งที่ยืนยันว่าองค์กรปฏิบัติตามข้อกำหนดในมาตรฐาน PCI-DSS จริง
ข้อกำหนดใหม่สำหรับ Service Provider
PCI-DSS 3.2 มีการเพิ่มข้อกำหนดใหม่ให้แก่ Service Provider หลายประการ เช่น มีการจัดทำเอกสารที่บรรยายถึงสถาปัตยกรรมการเข้ารหัสข้อมูลและรายงานถึงความล้มเหลวของระบบควบคุมความมั่นคงปลอดภัยที่สำคัญ, ระบุหน้าที่ความรับผิดชอบสำหรับการคุ้มครองข้อมูลผู้ถือบัตรและการปฏิบัติตามมาตรฐาน PCI-DSS, ต้องมีการทดสอบเจาะระบบควบคุมแต่ละส่วนอย่างสม่ำเสมอ และต้องทำให้ผู้บริหารระดับสูงเข้าใจถึงข้อกำหนด PCI-DSS
เปลี่ยนการใช้งานจาก SSL/TLS v1.0 ไปเป็น TLS v1.1 หรือใหม่กว่านั้น
การเปลี่ยนวิธีการเข้ารหัสนี้จำเป็นต้องทำถายในวันที่ 1 กรกฎาคม 2018
นอกจากนี้ ข้อกำหนดที่เปลี่ยนแปลงและเพิ่มขึ้นมาใหม่บนมาตรฐาน PCI-DSS 3.2 นั้น จะถูกพิจารณาว่าเป็น “Best Practices” จนกระทั่งวันที่ 31 มกราคม 2018 และเมื่อเริ่มเข้าวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2018 ข้อกำหนดทั้งหมดจะกลายเป็นข้อกำหนดที่บังคับใช้ทันที
ขอบพระคุณข้อมูลจาก +site Reference
https://icm.aexp-static.com/Internet/NGMS/pdf/datasecuritypolicy/DSOP_TH_th.pdf